การมีกลิ่นตัวที่หอม นอกจากจะทำให้เรามีความมั่นใจที่จะทำกิจกรรมต่างๆแล้ว มันยังเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้คนอยากเข้ามาหาเรา สำหรับใครที่อยากมีตัวหอมแบบธรรมชาติโดยไม่พึ่งน้ำหอม วันนี้เรามีเคล็ดลับการมีตัวหอมมาฝากกันค่ะ
สารบัญเนื้อหา
1. อาบน้ำและสระผมเป็นประจำ
การอาบน้ำนอกจากช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกแล้ว ยังทำให้ตัวหอมได้ด้วย โดยการอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น และเน้นถูสบู่บริเวณส่วนของร่างกายที่เกิดกลิ่นได้ง่าย เช่น รักแร้ ข้อพับ เท้า เป็นต้น รวมถึงการสระผมก็ด้วย เคล็ดลับการสระผมให้หอมคือ ให้สระผมด้วยแชมพู 2 ครั้ง สระครั้งแรกไม่ต้องเน้นอะไรมากแค่สระเพื่อล้างความมันเท่านั้น สระครั้งที่ 2 ให้เน้นบริเวณโคนผม แล้วตามด้วยครีมนวดและครีมบำรุงอื่นๆ อาจเลือกแชมพูที่ผสมน้ำหอมมาใช้ด้วยก็ได้ ที่สำคัญเลยคือเมื่อสระผมเสร็จต้องรีบทำผมให้แห้งโดยไว จะได้ไม่มีกลิ่นอับมารบกวน
2. สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด
การสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาดและมีกลิ่นหอมจากน้ำยาปรับผ้านุ่มก็ช่วยให้เรามีกลิ่นตัวที่หอมได้เช่นกัน แต่ให้ระวังการสวมใส่เสื้อผ้าที่แน่นเกินไป เพราะมันทำให้เหงื่อออกและเกิดกลิ่นตัวได้ ให้เลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศดีอย่างผ้าฝ้าย ผ้าลินินจะดีกว่า
3. ไม่สูบบุหรี่
บุหรี่นี่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวเลย ทั้งยังส่งผลแย่ต่อสุขภาพอีกต่างหาก มีแต่โทษทั้งนั้น ถึงแม้ว่าในขณะนั้นไม่ได้สูบบุหรี่อยู่ก็ตาม แต่กลิ่นบุหรี่มันติดทั้งในปากและรูขุมขน ทำให้มีกลิ่นตัวได้
4. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง
อาหารกลิ่นแรงจำพวกกระเทียม หัวหอม เนื้อสัตว์ และอาหารรสจัด ทำให้เกิดกลิ่นตัวและกลิ่นปากได้ง่าย ดังนั้นหากเลี่ยงได้ ให้เลี่ยงอาหารจำพวกนี้จะดีกว่า
5. กินอาหารที่มีประโยชน์
การกินอาหารที่มีประโยชน์ช่วยเรื่องตัวหอมได้ โดยเฉพาะการกินผักใบเขียว ใบเหลือง และผลไม้สดชนิดต่างๆ รวมถึงการดื่มน้ำก็ด้วย
6. อบซาวน่า
การอบซาวน่าถือเป็นการดีท็อกซ์ร่างกายอย่างหนึ่ง ทำให้ร่างกายขับเหงื่อและสารพิษออกไป และกลิ่นตัวก็ออกไปด้วย จึงทำให้ตัวหอมขึ้น
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับตัวหอมแบบง่ายๆที่ทุกคนน่าจะทำตามกันได้ อย่างการอาบน้ำก็เป็นกิจวัตรประจำวันที่ทุกคนต้องทำกันอยู่แล้ว เพียงแค่ใส่ใจเรื่องของความสะอาดให้มากๆแค่นั้นเอง ก็มีกลิ่นตัวที่หอมเป็นธรรมชาติได้แล้ว