อาการปวดคอ ปวดบ่า ปวดต้นคอ พบได้ในกลุ่มวัยทำงานหรือกลุ่มออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) อยู่บ่อยเป็นประจำ จึงทำให้กลุ่มคนในวัยทำงานจำนวนมากละเลย ไม่ใส่ใจในตัวเองคิดว่าเป็นอาการปวดที่ไม่อันตรายมากนัก เดี๋ยวก็หายเอง ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ แต่หารู้ไม่ว่าอาการปวดคอหากเป็นนานๆ นั้นอาจสงผลต่อหมอนรองกระดูก หรือมีอาการปวดคอ ปวดบ่าจนร้าวลงแขน เป็นสัญญาณของโรคที่เกี่ยวกับคอ และหมอนรองกระดูกคอเสื่อมได้
สาเหตุที่มักพบบ่อยจากอาการปวดคอเรื้อรัง
ผู้ที่มีอาการปวดคอเรื้อรังโดยมากมักมีสาเหตุมาจากการใช้คอที่ผิดท่าทาง ผิดลักษณะ เช่น การนั่งทำงานท่าใดท่าหนึ่งเป็นระยะเวลานาน, การนอนเล่นเกม, การขับรถเดินทางในระยะทางไกลแบบไม่พัก, การนอนหมอนที่ไม่เหมาะกับสรีระร่างกายของตัวเอง นอนหมอนสูงจนเกินไป ฯลฯ
หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ใช้กล้ามเนื้อบริเวณต้นคอเป็นเวลานานจนเกิดอาการล้าและเจ็บปวดได้ หากแต่ทั้งนี้ยังมีสาเหตุอื่นที่อาจเป็นไปได้ในอาการปวดคอเรื้อรังได้อีก เช่น
- เกิดจากโรคหมอนรองกระดูกคอเสื่อม ซึ่งอาจมีกระดูกงอกใหม่แทรกขึ้นมาแล้วไปเบียดทับเส้นประสาท
- หมอนรองกระดอกเคลื่อนทับเส้นประสาทส่วนที่จะไปเลี้ยงบริเวณแขน
- การเสื่อมสภาพของกระดูกตามช่วงอายุที่มากขึ้น
- จากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดบริเวณคอและบ่า
ลักษณะอาการปวดคอแบบที่ควรรีบพบแพทย์
หากรู้สึกปวดคอเรื้อรังนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งอาจปวดคอปวดบ่าจนร้าวลงไปถึงแขน แขนชา หรือแขนเริ่มมีอาการอ่อนแรง ปวดร้าวไปจนถึงแขน ลักษณะดังกล่าวนี้ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
เพื่อให้แพยท์ตรวจวินิจฉัยหรือเอ็กซเรย์กระดูกบริเวณสันหลังและต้นคอ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากโรคชนิดใด และทำการรักษาได้อย่างตรงจุด เพราะหากปล่อยไว้นาน จะไม่เพียงแค่ปวดคอเรื้อหา แต่อาจเกิดอาการกดทับเส้นประสาทส่วนอื่นที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ บางรางอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเขียร ปวดรอบกระบอกตา และมีไข้ได้อีกด้วย
ดังนั้นอาการปวดคอจึงเป็นอาการที่ดูปกติจนเคยชิน แต่หารู้ไม่บริเวณคอว่าเป็นจุดสำคัญของร่างกาย และใกล้ตำแหน่งศูนย์รวมประสาทที่สำคัญทั่วร่างกายที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด