ปัจจุบันคนวัยทำงานมักจะทุ่มเทกับการทำงานมากเกินไป ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพ และเพื่อเงินที่มากขึ้น จนละเลยปัญหาสุขภาพตัวเอง ทั้งยังพักผ่อนน้อย กินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ขาดการออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้คนวัยทำงานเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะ 7 โรคฮิตนี้ที่คุณควรระวัง

1. ออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรมเป็นอาการของการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืดจากการนั่งนานเกินไป รวมถึงอาการปวดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อและเอ็น อาการปวด ชา จากปลายประสาทที่ถูกกดทับจากการพิมพ์งาน หรือใช้มือเขียนงานมากเกินไป อาการเหล่านี้พบได้บ่อยในหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ จากสถิติของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า “คนวัยทำงานร้อยละ 60 มีภาวะโรคออฟฟิศซินโดรม” ถึงแม้ว่าโรคออฟฟิศซินโดรมจะเป็นโรคที่ไม่อันตราย แต่หากปล่อยสะสมจนกลายเป็นเรื้อรังก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ และรักษาให้หายขาดยากขึ้น ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนท่านั่งให้เหมาะสมและเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย และละสายตาจากหน้าจอทุกๆ 30 นาทีด้วย

2. โรคกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ

คนที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานให้ระวังไว้ เพราะคุณอาจเสี่ยงเป็นโรคกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือได้ อันเนื่องมาจากการใช้เม้าส์ในการทำงาน หรือใช้ข้อมือในการพิมคีย์บอร์ดผิดท่า จนเกิดการกดทับ ทำให้มีอาการชา หรือปวดแสบปวดร้อนตั้งแต่บริเวณนิ้วมือ ฝ่ามือ และอาจลามไปถึงหัวไหล่ได้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เม้าส์และคีย์บอร์ดให้ถูกท่า พร้อมกับรักษาด้วยการประคบร้อนจะช่วยบรรเทาโรคนี้ได้ แต่หากอาการรุนแรงควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา

3. โรคตาพร่ามัว ตาแห้ง

หนึ่งในสาเหตุอาการตาพร่ามัวเกิดจากแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ คนทำงานบางคนต้องจ้องหน้าจอมากกว่า 8 ชั่วโมงกันเลย จนเป็นสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาแห้ง ปวดตา ตาพร่าเบลอ และมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตาในอนาคต ยิ่งคนที่ทำงานในห้องแอร์ให้ระวังเรื่องตาแห้งไว้ด้วย เพราะหากเกิดการอักเสบขึ้นมา จะทำให้ตาของคุณเป็นต้อลมได้ หากเกิดอาการเช่นนี้ให้คุณหมั่นพักสายตาจากหน้าจอทุกๆ 1 – 2 ชั่วโมง ด้วยการมองไปไกล 20 ฟุต เป็นเวลา 20 วินาที หรือจะลุกออกจากโต๊ะไปชมวิวนอกหน้าต่างสักครู่หนึ่งก็ยังดี ที่สำคัญควรสวมใส่แว่นตาที่ช่วยป้องกันแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์กันด้วย

4. โรคอ้วน

โรคอ้วนไม่ได้เป็นโรคที่เกิดจากการกินเพียงอย่างเดียว แต่การนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะเป็นเวลานาน และไม่ได้ขยับตัวไปไหน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณเป็นโรคอ้วนได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นบางคนนั่งอยู่กับที่นานๆก็เกิดอาการหิว เอาขนมหรือของจุกจิกมากินบนโต๊ะทำงาน แถมยังขาดการออกกำลังกายก็เสี่ยงเป็นโรคอ้วนได้ อย่างที่รู้กันว่าโรคอ้วนสามารถนำพาไปหาโรคอื่นๆได้อีกมากมาย เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ฉะนั้นต้องป้องกันโรคนี้ ด้วยการขยับร่างกายลุกออกจากโต๊ะบ้าง อย่างการไปเข้าห้องน้ำ เดินออกไปสูดอากาศ และพยายามงดกินของจุกจิกระหว่างวัน แต่ถ้ารู้สึกหิวจริงๆให้กินเป็นผลไม้แทนจะเกิดประโยชน์กว่า

5. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ

โรคยอดฮิตของคนทำงาน สาเหตุหลักๆเกิดจากการอั้นปัสสาวะ ดื่มน้ำน้อย หรือเลือกดื่มกาแฟแทนน้ำเปล่า อย่างบางคนไอเดียกำลังพุ่งกระฉูด หรือกำลังประชุมสำคัญ ไม่อยากพลาดการประชุมนี้ เลยเลือกที่จะอั้นปัสสาวะ หรือบางคนคิดว่าไม่อยากปัสสาวะบ่อยเลยเลือกที่จะดื่มน้ำน้อยๆแทน แต่หารู้ไม่ว่าการดื่มน้ำน้อยก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน เพราะเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในร่างกายไม่ได้ถูกขับออกมา แถมยังเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนในร่างกายจนทำให้เกิดการติดเชื้อและอักเสบขึ้นได้ หากคุณไม่อยากเป็นโรคนี้เวลาปวดปัสสาวะควรเข้าห้องน้ำทันที ไม่ควรอั้นปัสสาวะไว้เด็ดขาด และควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 1.5 ลิตรต่อวันเพื่อป้องกันการเกิดโรคนี้

6. โรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่พบบ่อยมากในปัจจุบัน โรคนี้ส่งผลต่อสภาพจิตใจมากกว่าร่างกาย ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า ได้แก่ ความเครียด ความกดดัน และสังคมในการทำงานที่มีการแข่งขันกันสูง ที่อาจสะสมรุนแรงจนทำให้คุณกลายเป็นโรคซึมเศร้าในที่สุด โรคซึมเศร้าสามารถรักษาหายได้ด้วยการใช้ยา และมีนักจิตบำบัดคอยช่วยเหลือให้คุณหายจากโรคนี้ได้ คุณยังสามารถรับมือกับโรคซึมเศร้าได้ด้วยการเล่าเรื่องราวต่างๆให้คนที่ไว้ใจฟัง ทำกิจกรรมที่ชอบ ฟังเพลง เขียนบันทึกระบายความรู้สึก ออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้คุณหายจากโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน

7. โรคหัวใจ

คนวัยทำงานเป็นวัยที่กำลังสร้างตัว บางคนถึงกับต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวให้กับตัวเอง หรือครอบครัว ซึ่งการที่คุณต้องทำงานหนักนี้ อาจส่งผลให้คุณเป็นโรคหัวใจได้ รวมถึงการพักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีไขมันสูงและรสจัด ความเครียดจากการทำงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เป็นโรคหัวใจได้ ซึ่งคุณสามารถหลีกเลี่ยงการเป็นโรคหัวใจได้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ หาเวลาไปออกกำลังกายบ้าง ทำกิจกรรมที่ชอบเพื่อผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน เพียงเท่านี้ก็ทำให้สุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโรคหัวใจได้แล้ว