อาการปวดหัวเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย ปัจจัยที่ทำให้ปวดหัวก็มีมากมายทั้งการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ไม่สบาย เป็นไข้ ถ้าแค่ปวดเล็กน้อยกินยาพาราเซตามอลสักเม็ด สองเม็ดก็หาย แต่หากปวดหัวมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็อาจเป็นได้ว่าร่างกายกำลังส่งสัญญาณว่าเรากำลังเป็นโรคอะไรอยู่ แล้วอาการปวดหัวแบบไหนล่ะที่อันตราย? มาดูกันค่ะ


1. ปวดหัวมาก ปวดหัวข้างเดียว แล้วลามไปถึงกระบอกตา บางครั้งก็หน้ามืด แบบนี้อาจมีสาเหตุมาจากปวดหัวไมเกรน หรือเป็นต้นหินเฉียบพลัน
2. ปวดหัวบ่อย ปวดหัวมากกว่า 1 ครั้งใน 1 อาทิตย์ หรือปวดต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือน อาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท
3. ปวดหัวร่วมกับปวดคอ และมีไข้ อาจเป็นสัญญาณของเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
4. ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียนและมีความผิดปกติของระบบประสาทร่วมด้วย เช่น ดูไม่มีสติ มึน งง พูดและเดินลำบาก อาจมีสาเหตุมาจากโรคหลอดเลือดตีบตัน
5. ปวดหัวหลังจากการที่ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง อาจเป็นอาการของเลือดคลั่งในสมองจากอุบัติเหตุได้
6. ปวดหัวแบบรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปวดมาก่อน อาจเป็นภาวะเลือดโป่งพองในสมองที่เริ่มมีเลือดไหลออกเล็กน้อย แต่สามารถกลายเป็นเลือดออกอย่างวิกฤตที่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้


นอกจากนี้หากปวดหัวจากการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ยกน้ำหนัก วิ่ง, ปวดหัวพร้อมกับสูญเสียความทรงจำไปด้วย, ปวดหัวอย่างรุนแรงพร้อมกับปัญหาสายตา และความเจ็บปวดขณะเคี้ยว, อาการปวดหัวรุนแรงและมีรอยในดวงตาด้านหนึ่ง หรือเคยมีประวัติเป็นมะเร็งและปวดหัวรุนแรงมากขึ้น อาการเหล่านี้ควรรีบไปพบหมอทันที และเล่าอาการให้หมอฟังอย่างละเอียด เพื่อที่หมอจะได้หาสาเหตุได้ถูกต้อง ที่สำคัญไม่ควรปล่อยทิ้งไว้และหายามากินเอง เพราะนั่นไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย ทั้งยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอันตรายต่อชีวิตด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *