วิตามินซีมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดลง ลดอาการภูมิแพ้ แถมยังดีต่อผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณสดใส ไม่หมองคล้ำ ด้วยเหตุนี้การกินผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี รวมถึงอาหารเสริมวิตามินซีจึงเป็นที่นิยมในหมู่คนที่รักสุขภาพและความสวยงาม แต่ก่อนที่จะหาวิตามินซีมากินนั้น ควรจะรู้ข้อมูลในการวิตามินซี เช่น แต่ละวันควรกินวิตามินซีปริมาณเท่าไหร่? กินทุกวันอันตรายไหม? และกินวิตามินซีอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดในบทความนี้กัน

ปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับในแต่ละวัน


ถึงแม้วิตามินซีจะมีประโยชน์ในเรื่องของสุขภาพร่างกายและผิวพรรณ แต่ก็ใช่ว่าจะกินเยอะเท่าไหร่ก็ได้ ควรจะกินในปริมาณที่พอดีในแต่ละวัน โดยปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับในแต่ละวันนั้นก็แตกต่างกันออกไปตามช่วงวัย ดังนี้


อายุต่ำกว่า 15 ปี มีความต้องการวิตามินซี 30 – 50 มิลลิกรัมต่อวัน แต่สามารถกินเพิ่มได้ถึง 100 – 200 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ไม่ควรเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน
อายุ 15 ปีขึ้นไป มีความต้องการวิตามินซี 75 – 90 มิลลิกรัมต่อวัน แต่สามารถกินเพิ่มได้ถึง 1,000 – 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อลดความเสี่ยงการเป็นไข้หวัด หรือเลือดออกตามไรฟัน

วิตามินซีทานทุกวันอันตรายหรือไม่?


ปกติแล้วร่างกายสามารถขับวิตามินซีออกไปได้เองตามปัสสาวะ หากเรากินวิตามินซีในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นในแต่ละวัน หรือเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวันติดต่อกันนานๆก็อาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้ เช่น ปวดท้อง, ไม่สบายท้อง, ท้องเสียรุนแรง พบได้ในคนที่กินวิตามินซีโดสสูงมากๆ ถึง 8,000 มิลลิกรัม, เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และเสี่ยงเป็นนิ่วในไต เนื่องจากการตกตะกอนของวิตามินซีที่ร่างกายขับออกไม่หมด


สำหรับคนที่ควรระวังในการกินวิตามินซีในปริมาณที่มาก ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคไต, ผู้ที่ป่วยเป็นโรค G6PD หรือโรคแพ้ถั่วปากอ้า, ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย, ผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูง และผู้ป่วยโรคมะเร็ง ดังนั้น คนที่มีโรคประจำตัวควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนกินวิตามินซี

กินวิตามินซีอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด?


• กินวิตามินซีพร้อมอาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวัน เพราะวิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 2 – 3ชั่วโมง หากกินช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นเวลาที่เรานอนแล้ว จะไม่ค่อยลุกมาปัสสาวะ ฉะนั้นร่างกายก็จะไม่ได้ระบายวิตามินซีออก จนเป็นเหตุให้วิตามินซีสะสมในไตได้
• การกินวิตามินซีเพื่อบรรเทาอาการหวัด ให้กินวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา จะทำให้ระดับฮิสตามีน สารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลงได้ถึงร้อยละ 40
• กินวิตามินซีร่วมกับอาหารแคลเซียมสูง, คอลลาเจน, กลูต้าไธโอน และอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อช่วยเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน รวมไปถึงช่วยในการดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ดีขึ้น
• ผู้ป่วยเบาหวานควรกินวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพื่อลดสารอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือด นอกจากนี้การกินวิตามินซียังช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย เป็นต้น
• เมื่อกินวิตามินซีแล้วควรดื่มน้ำตามให้มากๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองกระเพาะอาหาร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *